Monday, May 11, 2009

ซื้อรถใหม่ ป้าย แดง ( ปลอม )





ใครๆ ก็อยากซื้ อรถใหม่ป้ ายแดง เพราะคิดว่าน่าจะหมดปัญหาในเรื ่ องคุณภาพ การซ่อมบำรุง การรับประกัน ตลอดจนการบริการหลังการขาย ซึ ่ งไม่เหมือนกับการซื้อรถยนต์มือสอง เพราะการซื้อรถยนต์มือสองคุณไม่อาจทราบข้อเท็จจริงและคาดเดาผลพวงที ่ จะตามมาได้ โดยเฉพาะ อย่างยิ ่ งหากเกิดปัญหาจากการใช้งานก็อยู่นอกการประกันโดยสิ้นเชิง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้คนส่วนใหญ่ นิยมซื้อรถใหม่ป้ ายแดงเพื ่ อให้หมดปัญหา แต่ทว่ากรณีการซื้อรถใหม่ป้ ายแดงของผู้บริโภครายหนึ ่ ง มิได้เกิดจากปัญหาการใช้รถยนต์ แต่เกิดปัญหาจาก “ป้ ายทะเบียน” ทั้งๆ ที ่ ยังไม่ได้เปลี ่ ยนเป็ นอื ่ น แต่อย่างใด


เรื ่ องมีอยู่ว่า สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้รับเรื ่ องร้องเรียน จากผู้บริโภครายหนึ ่ ง กรณีซื้อรถยนต์ใหม่แกะกล่อง เมื ่ อผู้บริโภคนำรถยนต์มาใช้งานได้เพียงไม่กี ่ วัน ก็ต้องตกเป็นจำเลย ถูกตำรวจจับในข้อหาใช้ “ทะเบียนปลอม” ทั้งๆ ที ่ ผู้บริโภคก็รับป้ ายทะเบียนมาจาก บริษัทที ่ ซื้อรถด้วยตนเอง เมื ่ อเป็นเช่นนี ้ สคบ. ได้ให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ปรากฏว่าบริษัทปฏิเสธ ข้อกล่าวหาโดยอ้างว่า ผู้บริโภครู้อยู่แล้วว่าเป็ นป้ ายทะเบียนปลอมและได้หยิบป้ ายทะเบียนไปเอง โดยที ่บริษัทยังไม่ได้ส่งมอบป้ ายทะเบียนให้กับผู้บริโภคเลย

กรณีนี้ถือว่าเป็ นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคและมีความผิดตามกฎหมาย เนื ่ องจาก การขายรถยนต์ใหม่ บริษัทมีหน้าที ่ ต้องส่งมอบป้ ายทะเบียนรถยนต์ (ป้ ายแดง) จริงให้กับผู้บริโภค มิใช่ส่งมอบป้ ายปลอม ซึ ่ ง สคบ. ได้ดำเนินคดีแพ่งแก่บริษัทเพื ่ อให้บริษัทชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้บริโภค

วิธีตรวจสอบแผ่นป้ ายทะเบียน

ป้ ายแดงหรือเครื ่ องหมายพิเศษ ตามกฎกระทรวงฉบับที ่ ๕ (พ.ศ. ๒๕๓๒) ออกตามความในพระราชบัญญัติว่าด้วยรถยนต์ พ.ศ. ๒๕๒๒ จะต้องเป็ น แผ่นป้ ายทะเบียนโลหะ ขนาดกว้าง ๑๕ เซนติเมตร ยาว ๓๐ เซนติเมตร พื้นแผ่นป้ ายเป็นสีแดงสะท้อนแสง ในแผ่นป้ ายต้องมี ตัวอักษรย่อนูน “ขส” ไว้ที ่ มุมล่างด้านขวา และสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ ป้ ายแดงที ่ ถูกกฎหมาย ต้องเป็นป้ ายที ่ทางราชการออกให้และมีสมุดคู่มือประจำรถควบคู่กันเสมอ คือ ป้ ายแดง ๒ แผ่นสำหรับติด รถด้านหน้าและด้านหลังกับสมุดคู่มือประจำรถอีก ๑ เล่ม ที ่ระบุตัวอักษรและตัวเลขเดียวกับป้ ายทะเบียน ทั้งหมด
รู้ อย่างนี้ แล้ ว ตอนไปรับรถผู้ บริโภคก็อย่าลืมที ่ จะตรวจสอบป้ ายแดงด้ วยนะคะ ว่าเป็นป้ ายจริงที ่ทางราชการออกให้หรือป้ ายปลอมที ่บริษัททำขึ้นเอง
............................................
แหล่งข้อมูล : เอกสารประกอบการประชุมคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค

จองทะเบียนรถทำไงบ้าง





ขอจองทะเบียน ที่ขนส่ง แถวๆ หมอชิต
แนะนำแบบนี้นะครับ

1. เอกสารแค่บัตรประชาชนครับ ไปอาคาร 2 ชั้น 4 ครับ
2. ควรเตรียมเลขที่เราต้องการไป 10 ตัวและไม่ควรเป็นเลขประมูล เพราะเลขประมูลเขาจะล๊อคไว้ประมูลเลขประมูลดูได้จาก เวปไซต์ ประมูลเลขทะเบียนครับว่า มีอะไรบ้าง
3. ไปจดเลข 10 ตัวนั้นในแบบฟอร์ม เจ้าหน้าที่จะให้บัตรคิว และรอคิวเรียก ไม่นานถ้าคนไม่เยอะไม่ถึง 3 นาที
4. ถ้าอยากได้เลขสวย ควรจะไปวันแรกของหมวด ได้ครับให้พยายามไปวันแรกๆ ของหมวด โทรไปถามก่อนล่วงหน้า แต่ไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่จะบอกหรือเปล่าผมฟลุ๊ค ไปวันแรกของ ชฮ พอดี แต่เป็นช่วงบ่าย เลข 3 ที่สวย ยังจองได้ทันครับถ้าไปเช้า อาจจะได้ 3 ตัวสวยกว่านี้ แต่ 2 ตัวคิดว่าไม่น่าได้ แม้จะไม่ใช่เลขประมูลเขาจะล๊อคไว้ขายครับคือ นอกจากล๊อคเลขประมูลแล้ว ยังล๊อคเลขสวยบางตัว ที่ไม่ได้ประมูล แต่เอาไว้ขายได้ หลักหมื่น ทีเดียวเลขประมูลจะหลายหมื่น จนไปถึงหลายแสนครับส่วนวันเสาร์ไม่ทราบครับ แต่ถ้าอยากได้เลขสวยแบบไม่ต้องซื้อจริงๆต้องไปวันแรกของการออกหมวดครับ อันนี้ชัวร์ที่สุด ช้ากว่านี้ ไม่มีทางครับ
5. จองแล้วต้องจดภายใน 60 วันครับ ถ้าคุณรอรับรถอยู่ ควรรอไม่เกิน 30-40 วันยกเว้นจะซื้อเงินสด ก็อาจจะพอรอได้ ราวๆ 40-50 วันของการส่งมอบรถถ้าผ่อนกับไฟแนนซ์ แม้ส่งมอบรถแล้ว จะต้องรอเอกสารอีก บางทีอาจจะนาน 20 วันหรือเดือนอย่างเช่นไปช่วงนี้ คุณควรจะรับรถไม่เกิน ต้น มิย เป็นอย่างช้า เพราะถ้าพอดีปลาย มิยจะเสี่ยงเกินไปครับ

ยังไงลองโทรถามขนส่งได้ตามนี้ครับ 02-272-5451, 02-272-5486, 02-272-5501-2

Wednesday, May 6, 2009

ป้ายแดง กับเรื่องยุ่ง ที่น่าสนใจ..




แม้เป็นเรื่องที่เข้าใจกันทั่วไปว่า ป้ายแดง หมายถึงป้ายทะเบียนสีแดงตัวอักษรดำ ที่มีไว้สำหรับรถใหม่เอี่ยม ซึ่งอยู่ในช่วงรอจดทะเบียนเปลี่ยนเป็นป้ายทะเบียนจริง แต่ในความเป็นจริง ยังมีหลายเรื่องยุ่งที่น่าสนใจ
++ ป้ายแดงปลอม++
ป้ายแดงที่ถูกกฎหมาย ต้องออกจากทางราชการและมีสมุดคู่มือประจำรถควบคู่กันเสมอ คือ ป้ายแดง 2 แผ่นสำหรับติดรถด้านหน้าและด้านหลังกับสมุดคู่มือฯ อีก 1 เล่ม

ปัญหาป้ายแดงปลอมเกิดขึ้นจาก 2 กรณี คือ

1.ราชการผลิตไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่รถใหม่ขายดีมากๆ อย่างปี 2546 นี้ น่าจะมียอดขายรถทุกประเภทรวมถึงกว่า 500,000 คัน ในเมื่อรถขายดี แต่ไม่มีป้ายแดงให้ ก็ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายตั้งใจแก้ไขปัญหาโดย ไปสรรหาขอป้ายแดงจากหน่วยงานราชการในจังหวัดที่ยังพอมีเหลืออยู่ แต่ก็มีผู้ประกอบการบางรายมักง่ายจนเกิดเป็นกรณีที่ 2 คือ

2. เมื่อป้ายแดงขาดแคลนก็ไม่พยายามสรรหา หรือแม้ไม่ขาดแคลน แต่เอาง่ายเข้าว่า ซื้อป้ายแดงปลอมที่ผลิตขายกันทั่วไปในราคาป้ายละ 100-150 บาท++ตรวจสอบอย่างไร++ผู้ซื้อมีหน้าที่ปกป้องตัวเอง โดยดูที่ตัวป้ายแดง ทุกป้ายต้องมีตัวย่อนูน ขส ที่มุมด้านล่างขวา รถ 1 คันต้องใช้ 2 ป้าย เพื่อติดด้านหน้าและหลัง สมุดคู่มือประจำรถต้องเป็นของทางราชการ ระบุตัวหมวดอักษรและตัวเลขเดียวกับป้ายทะเบียนทั้งหมด ยังมีหน้ากระดาษและช่องเหลือสำหรับกรอกรายละเอียดการใช้รถอย่างน้อย 1-2 หน้า
++กฎเดิมยังบังคับใช้ครบ++

กรอกรายการใช้รถ ห้ามขับตอนมืด ถ้าจะขับตอนมืดต้องขออนุญาต กฎพื้นฐานเดิมของการใช้รถป้ายแดง ปัจจุบันยังมีการบังคับใช้ครบถ้วน โดยมีสาระสำคัญคือ
1. ทุกครั้งที่ใช้รถเดินทาง ต้องกรอกรายละเอียดในรายการใช้รถในสมุดคู่มือฯ ให้ครบถ้วน
2. ถ้าทำตามข้อ 1 แล้วจะสามารถใช้รถได้เฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก (เวลากลางวัน) เท่านั้น (ไม่ใช่ 6.00-18.00น.)
3. หากจะใช้รถตอนมืด เวลาพระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น (เวลากลางคืน) ไม่ว่าจะค่ำ ดึก หรือเช้ามืด นอกจากต้องทำตามข้อ 1 แล้วจะต้องขอรับอนุญาตจากนายทะเบียน (จะต้องมีลายมือชื่อนายทะเบียนของทางราชการในรายการใช้รถ) หากมีการฝ่าฝืนในข้อใด มีโทษปรับ

++ทำไมห้ามขับตอนมืด++
หลายคนสงสัย แต่เท่าทีสอบถามเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน (ซึ่งไม่ใช่คนออกกฎนี้) ได้รับคำตอบว่า เพราะป้ายแดงเป็นป้ายชั่วคราวที่สามารถหมุนเวียนนำไปใช้ได้ โดยการหมุนเวียนเปลี่ยนคันรถไม่ต้องขออนุญาตจากทางราชการ อีกทั้งยังมีสีเข้ม อ่านได้ยากตอนกลางคืน ดังนั้นหากเกิดเหตุอะไรไม่ชอบมาพากลตอนกลางคืน นอกจากจะอ่านเลขทะเบียนยากแล้ว ถ้าอ่านออก การติดตามหรือค้นหารถคันจริงที่ใช้ป้ายนั้นในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ จะยุ่งยากกว่าการตามรถที่มีป้ายถาวรแล้วหลายคนบอกว่า ถ้าป้ายแดง อ่านยากตอนกลางคืน ก็น่าจะเปลี่ยนสีป้ายในกลุ่มนี้เพื่อให้ใช้งานได้ 24 ชม. ..ก็มีส่วนจริง แต่นั่นเป็นแค่ความเห็น เพราะล่าสุดยังไม่มีการพิจารณาแก้ไขกฎหมายนี้ ตราบใดที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ประชาชนก็มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมาย แม้จะล้าสมัยก็ตาม

นอกจากนี้ ถ้ามองในแง่ดี การเข้มงวดการใช้รถป้ายแดงตอนกลางคืน ก็มีผลดีต่อการป้องการกันโจรกรรมบ้างเล็กน้อย เพราะรถใหม่ยังไม่จดทะเบียน มีแต่ป้ายแดง ยากต่อการติดตาม ถ้ามีการสลับป้ายทะเบียนหลังการโจรกรรม

++อุนโลม จนนึกว่าทำได้หรือกฎเปลี่ยน++
โดยเฉพาะประเด็นของการใช้รถป้ายแดงตอนมืด หลายคนคิดไปเองว่า กฎเลิกบังคับใช้แล้ว นึกว่าสามารถใช้งานได้ทั้งวันทั้งคืน เพราะเห็นรถป้ายแดงบ่อยๆ ตอนมืด แล้วก็ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดจับกุมเลย ในความเป็นจริง กฎยังบังคับใช้ครบถ้วน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่อนุโลมให้ เพราะเห็นความจำเป็นในการใช้รถ เช่น คาบลู่คาบดอกในการเดินทาง ต้องออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืด หรือออกจากที่ทำงานตอนเย็นยังไม่มืด แต่การจราจรติดขัดมาก มืดขณะที่รถคาอยู่บนถนนยังไม่ถึงบ้านนอกจากนั้นการอนุโลม ยังเกี่ยวข้องไปถึง การกรอกรายการใช้รถในเล่มทุกครั้งที่เดินทาง พบว่าน้อยครั้งมากที่ใครจะทำเช่นนั้น เพราะขี้เกียจ และเจ้าของป้ายแดงต้องขอเปลี่ยนสมุดคู่มือบ่อยมาก ถ้าใช้รถทุกวันและกรอกตามจริง ไม่กี่วันก็หมดเล่ม ต้องเสียค่าธรรมเนียมทุกครั้งเมื่อเปลี่ยนใหม่ การอนุโลมในวงกว้าง ทำให้หลายคนคิดว่า ป้ายแดงใช้ได้ทั้งวันทั้งคืน และใช้ได้โดยไม่ต้องกรอกรายการใช้รถ การอนุโลมก็คือ อนุโลมจากผู้ถือกฎหมาย ไม่ใช่เป็นตัวบทกฎหมายเฉพาะกาลออกมาดังนั้นถ้าใครไม่ทำตามแล้วถูกจับกุม ก็ไม่สามารถร้องเรียนหรือโวยวายได้ จนกว่าจะมีการแก้ไขกฎหมายใหม่

++ชอบ/ไม่ชอบ ป้ายแดง++
บางคนคิดว่าการใช้รถป้ายแดงมีความเท่ ยิ่งใช้นานเท่าไรยิ่งดี อีกทั้งยังมีพลอยได้ไปถึงราคาขายต่อ หากยื้อใช้ป้ายแดงได้นาน หรือดีมากหากนานข้ามปี เพราะใบคู่มือจดทะเบียนจริง จะแสดงวันที่จดทะเบียนเท่านั้น จะใช้ป้ายแดงมากี่เดือนกี่ปี่ไม่เกี่ยว บางคนไม่ชอบใช้รถป้ายแดง เพราะถ้าใช้ตอนมืด จะต้องลุ้นว่าถ้าเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วจะได้รับการอนุโลมหรือไม่ขั้นตอนการจดทะเบียนรถของทางราชการ สามารถเสร็จสิ้นได้ภายในไม่กี่วัน หรืออย่างช้าที่สุดไม่น่าเกินครึ่งเดือน ถ้าช้ากว่านั้นแสดงว่าปัญหาอยู่ที่ผู้ขายหรือผู้นำเนินการ ไม่ใช่ทางราชการ เช่น รอรวบรวมไปดำเนินการพร้อมกันหลายคัน หรือนำเอกสารของรถคันนั้นไปหมุนเวียนเป็นเงิน (บางกรณีหมุนเป็นเงินจนถูกยึด ไม่มีเอกสารมาจดทะเบียนเลยก็มี)
++สรุป ทำอย่างไร++

รับรถพร้อมป้ายแดงแท้ 2 แผ่น ติดรถที่ด้านหน้า-หลัง ต้องมีตัวย่อ ขส นูนที่มุมล่างของป้าย พร้อมสมุดคู่มือประจำรถ หมวดตัวอักษรเลขตรงกันทั้งหมด การไม่กรอกรายการใช้รถตามจริงลงในสมุดคู่มือทุกครั้ง จะได้รับการอนุโลมมากกว่ากรณีใช้รถตอนมืด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที และไม่สามารถเถียงได้ ผิดเต็มประตู เพราะกฎหมายยังบังคับใช้ตามเงื่อนไขเดิมอยู่ถ้าจำเป็นต้องใช้รถป้ายแดงตอนกลางคืน ก็บอกได้ชัดเจนว่าว่า คุณกำลังทำผิดกฎหมาย พร้อมถูกจับและถูกปรับได้ทุกเมื่อ ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่จับ คือ อนุโลม ไม่ใช่ไม่ผิด และยากถ้าจะขับรถป้ายแดงให้ถูกกฎหมายตอนมืด เพราะต้องยุ่งยากไปให้เจ้าหน้าที่ราชการนายทะเบียนลงลายมือชื่อกำกับทุกครั้งไม่ว่าทางราชการยุคก่อน จะมีเหตุผลใดในการไม่สนับสนุนให้ใช้รถป้ายแดงตอนมืด แต่กฎก็คือกฎ หากจะฝ่าฝืน ก็นับเป็นหนึ่งในเรื่องที่ต้องทำใจ ที่คนไทยต้องทำตามหลายกฎหมายเดิมอันล้าสมัย
ที่มา :หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

Tuesday, May 5, 2009

ฤกษ์ออกรถ ตามวัน และ เวลา ถอยรถออกจากอู่

ฤกษ์ออกรถ ตามวัน (อาทิตย์ - จันทร์)
- ไม่ซื้อรถวันอาทิตย์ ซื้อแล้วจะมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ
- ซื้อรถวันจันทร์ ซื้อแล้วมักโชคดีได้ลาภเสมอ
- ไม่ซื้อรถวันอังคาร ซื้อแล้วมีปัญหาเงินทอง หรือ อุบัติเหตุ
- ไม่ซื้อรถวันพุธ ซื้อแล้วมีปัญหาเงินทอง
- ไม่ซื้อรถวันพฤหัสบดี ซื้อแล้วการงานติดขัด
- ซื้อรถวันศุกร์ ซื้อแล้วมักโชคดีได้ลาภ
- ไม่ซื้อรถวันเสาร์ ซื้อแล้วมักเจออุบัติเหตุ
- ไม่ซื้อรถวันพระ ซื้อแล้วมักจะเจ็บป่วย
ฤกษ์ออกรถ ตามเวลามงคลในการถอยรถออกจากอู่

1. วันอาทิตย์ 06:09-08:29 หรือ 13:39-14:59
2. วันจันทร์ 09:39-10:00 หรือ 16:39-17:49
3. วันอังคาร 11:09-12:59
4. วันพุธ 08:59-10:59 หรือ 13:39-14:59
5. วันพฤหัสบดี 10:39-11:00
6. วันศุกร์ 06:39-08:59 หรือ 13:39-14:59

Saturday, May 2, 2009

Nissan Frontier NAVARA CALIBRE รุ่นขับสองยกสูงของกระบะ 6 เกียร์




เปิดตัวออกมาประมาณหนึ่งปีเศษ ๆ เป็นรถที่ถือว่าปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ให้โดนใจผู้ใช้มากยิ่งขึ้น และเป็นตัวที่สามารถกระตุ้นยอดขายของนิสสันให้กระเตื้องขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากความโดดเด่นใน หลาย ๆ ด้าน นอกเหนือจากดีไซน์ และในความที่เป็นรถ 6 เกียร์สามารถสร้างความแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความจำเป็นของชุดเกียร์ว่าจะใช้งานได้อย่างเต็มที่มากแค่ไหน แต่อีกกระแสก็ชื่นชอบความแปลกใหม่ ซึ่งก็ต้องปรับเปลี่ยนความเคยชินในการใช้งานสักพัก ส่วนใหญ่จะลืมว่าต้องเข้าเกียร์ 6 ด้วยในช่วงที่เดินทางไกล


ที่ผ่านมานั้น นิสสัน นาวาร่า เปิดตัวออกมาทั้งในรูปแบบของกระบะขับเคลื่อนสองล้อ และขับเคลื่อนสี่ล้อ แน่นอนครับว่ายังมีกลุ่มคนที่ต้องการความหล่อเหลาของรถประเภทยกสูง แต่ว่าไม่มีความจำเป็นต้องลุยกันมากนัก ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็ไม่จำเป็นต้องมีไว้ให้หนักรถ ถือเป็นการสิ้นเปลืองน้ำมันไปเปล่า ๆ แนวความคิดของรถประเภทขับเคลื่อนสองล้อยกสูงมาจากโรงงานก็เลยเกิดขึ้นมา ซึ่งจะเห็นว่าหลาย ๆ ยี่ห้อก็ออกมาให้เห็นกันครบถ้วนแล้ว รวมทั้งนิสสัน แม้จะออกมาล่าช้ากว่าเขาหน่อย แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารถขับสองยกสูง โดยในรุ่นที่ออกมานี้ใช้ชื่อว่า นาวาร่า คาลิเบอร์ รูปโฉมส่วนใหญ่ก็จะไม่แตกต่างไปจากนาวาร่า รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อมากนัก ออกมาให้เห็นทั้งรุ่นแค็บเปิดได้ และรุ่น 4 ประตู กระจังหน้าเป็นแบบ Angie Strut ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของนิสสัน ร่วมกับไฟหน้าซีนอนที่ปรับระดับได้ เพิ่มความสวยงามและความปลอดภัยด้วยไฟตัดหมอกให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ยามค่ำคืนหรือเมื่อมีหมอกควัน ช่วงหน้ารถออกแบบให้มีโอเวอร์แฮงก์สั้น (Short Overhang) เพิ่มความคล่องตัวในการขับขี่ ซุ้มโป่งล้อทั้ง 4 ล้อ ขนาดใหญ่ขึ้นรูปเนื้อเดียวกับตัวถัง มือเปิดกระบะท้ายแบบ One Touch ดีไซน์รูปทรง V-Shape ส่วนไฟท้ายออกแบบใหม่สวยงามและไฟเบรกดวงที่ 3 ติดตั้งบริเวณหลังคาของตัวรถ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ ส่วนล้อในตัวคาลิเบอร์นั้นเป็นล้ออัลลอย แบบ 5 ก้านเหมือนกับตัวขับสี่ ขนาด 16 นิ้ว พร้อมยางขนาด 255/70R16 นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยบันไดข้างสไตล์ออฟโรดที่มีใช้อยู่ในตัวขับเคลื่อนสี่ล้อด้วย


สำหรับการออกแบบภายในห้องโดยสารของนาวาร่า คาลิเบอร์ นั้น ก็จะเหมือนกับรุ่นขับสี่ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน สไตล์สปอร์ต ปรับสูงต่ำได้อย่างง่ายดาย เบาะนั่งเป็นเบาะผ้า ออกแบบให้โอบกระชับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่องเสียบกุญแจเรืองแสง และอยู่ในตำแหน่งที่สะดวกต่อการใช้งานในยามค่ำคืน พร้อมจอแสดงผลการทำงานของระบบต่าง ๆ อาทิ ระยะเวลาตรวจซ่อมบำรุง และระบบเตือนระดับน้ำมันเครื่อง เป็นต้น ช่องเก็บของหน้ารถแบบ 2 ชั้น เพิ่มความอเนกประสงค์มากขึ้น เครื่องเสียงเล่นซีดี MP3 ได้ด้วยกำลังขับสูงสุดถึง 160 วัตต์


นาวาร่า คาลิเบอร์ มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล YD25DDTi-144 คอมมอนเรลแบบไดเรกต์อินเจคชั่น สร้างกำลังสูงสุดได้ 144 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 356 นิวตัน-เมตร เทอร์โบแบบแปรผัน Variable Nozzle Turbo charger (VNT) อินเตอร์คูลเลอร์ ใช้ระบบเครื่องยนต์แบบเพลาถ่วงสมดุลช่วยลดเสียงดังของเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานอย่างราบเรียบ และลดแรงสั่นสะเทือน


ระบบส่งกำลังจะใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ซึ่งเป็นระบบเกียร์แบบเดียวกับที่ใช้ในรถสปอร์ตหรู นิสสัน 350Z ส่งผลให้มีอัตราเร่งที่เหนือกว่า ด้วยอัตราทดเกียร์ที่ชิดและกระชับในช่วงเกียร์ 1-4 และมีอัตราทดเกียร์ที่กว้างในเกียร์ 5-6 ส่งผลให้เครื่องยนต์เงียบกว่าที่ความเร็วสูง พร้อมระบบความปลอดภัยเพื่อป้องกันการเปลี่ยนเกียร์ผิดตำแหน่ง โดยเกียร์ถอยหลังนั้นต้องกดคันเกียร์ลงจึงสามารถเปลี่ยนไปยังตำแหน่ง R ได้


ส่วนช่วงล่างระบบกันสะเทือนด้านหน้า เป็นแบบอิสระปีกนกคู่สองชั้นพร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแหนบซ้อน พร้อมโช้กอัพไขว้แบบติดตั้งเหนือแกนเพลา ซึ่งจะคล้ายคลึงกับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ในเรื่องของความปลอดภัยที่มีให้เห็นในนาวาร่า นั้นก็จะมีตั้งแต่โครงสร้างซึ่งมีขนาดใหญ่ ทำจากเหล็กกล้า ขึ้นรูปประกบ 2 ชั้น เป็นแบบชิ้นเดียวยาวตลอดในจุดที่ต้องรับน้ำหนักสูง เสริมความแข็งแกร่งทนต่อแรงบิดตัวได้ดี


โครงสร้างตัวถัง Zone Body Concept มีความแข็งแกร่งสูง ร่วมด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัยภายใน ฟรอนเทียร์ นาวาร่า มีมาให้ครบครัน อาทิ ระบบการยุบตัวของพวงมาลัยแบบเดียวกับรถเก๋ง ระบบไฟหน้าซีนอน ให้ความสว่างชัดเจนในยามค่ำคืนพร้อม Levelizer สามารถปรับระดับความสูงต่ำของแสงตามความต้องการได้ 4 ระดับ ระบบเบรก LSV (Load Sensing Valve) จะตรวจจับการกระจายน้ำหนักของแรงกดบนล้อหน้าและล้อหลัง และจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกในล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุลกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิ ภาพในการเบรกสูงสุด ดิสก์เบรกหน้าแบบคาลิเปอร์ลูกสูบคู่ จานเบรกขนาดใหญ่พร้อมช่องระบายความร้อนและหม้อลมเบรกสุญญากาศขนาดใหญ่ 2 ชั้น ให้แรงดันสูงขึ้น เบรกดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการเบรกด้วยระบบป้องกันล้อล็อก ABS ช่วยให้หยุดรถอย่างมั่นใจ ควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อ ด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Distribution) ปรับแรงดันน้ำมันเบรกล้อหน้าและหลังให้เท่ากัน


ปิดท้ายกันด้วยราคาค่าตัว ซึ่งในนาวาร่า คาลิเบอร์ นั้นจะมี 2 รุ่น ก็คือ ตัว King Cab กระบะเปิดได้ ราคา 639,000 บาท และรุ่น Double Cab ตั้งราคาเอาไว้ที่ 715,000 บาท
โดย : www.taladrodcyber.com

MIX and MATCH ภายใน




MIX and MATCH ภายใน ด้วยนิสัยที่ชอบเปรียบเทียบและจับผิด ที่เราจึงกล้าคุยคับปากว่า นอกจากแค็บห้องโดยสารอันกว้างใหญ่เหลือประมาณ (จริงจริ๊ง) สะดวกสบาย NAVARA ใหม่ ยังได้ใจด้วยความพิถีพิถันอย่างตั้งใจ ไม่ว่าฝีมือการตัดเย็บเกรดเบาะนั่งและแผงข้างเกรด A, แนวประกอบเรียบร้อย ไม่ประดักประเดิดพะเยิบพะยาบเกยกัน พร้อมกับเรือนมาตรวัดที่ผิดวิสัยโชว์ออฟ แต่ก็ซ่อนดีไว้ข้างใน เริ่มเรือนหน้าปัดสบายตา ปรับลดแสงสว่างถึง 5 ระดับจากโดยเฉพาะ On board computer ช่วยเตือนระบบเครื่องยนต์ไปจนถึงระยะเวลาที่ควรเข้ารับบริการ (ซะเถอะ) ที่แน่นอนคือ ระบบความบันเทิงที่สามารถแดนซ์กระจายถึง 160 วัตต์ พร้อม MP3 ที่โหลดเพลงตามใจคุณได้เป็นรายแรกในรถกระบะ ลูกเล่นอื่นใช่ย่อยครับ เข็มทิศดิจิตอล และกระจกส่องหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติเช่นเดียวกับ MURANO (SUV หรูระดับเทพ) ส่วนที่ไฮไลต์สุด ๆ คือ On board computer ที่จะคอยเตือน Service terms เผื่อบางที NAVARA อยากจะคุยกับคุณ ?


ภายในของ NAVARA ใหม่ สไตล์ MIX and MATCH ผสานด้วยสถาปัตยกรรมภายในที่ลงตัว เริ่มต้นด้วยห้องรับแขกสมัยใหม่, พวงมาลัยสปอร์ตจาก Sport 350 Z ที่บังเอิญร่วมสมัยไปกับ SUV ได้สบาย ทั้งซ่อน SRS Airbag คู่ แถมด้วยคานนิรภัย 3 จุดทุกประตูซ้าย-ขวา เรื่อยไปตลอดแค็บโดยสารที่ขยับมาตรฐานความปลอดภัยให้เหนือคู่แข่งที่มักมีแค่ 1-2 เท่านั้น นอกจากนั้น สำหรับผู้ที่ชอบกระบะดิบ NAVARA King Cab คุณจะถูกแถมด้วยความสบายด้วย Barn doors (1 คู่ประตูโรงนา) เปิดกว้างเพื่อผู้โดยสาร และสัมภาระที่ต้องลากถูขึ้นไป แต่หากจะได้ใจทุก ๆ คน ลองจ่ายเพิ่มอีกนิด คุณก็มีสิทธิ์หรูสุดด้วย Double Cab 4 door ที่คุ้มค่ากว่า ด้วยความสะดวกสบายได้ใจจากผู้โดยสารตอนหลังอย่างเต็มอัตรา สุขสบายทุกที่นั่งเต็มนิยาม SUV ที่ให้คุณนั่ง ณ ตำแหน่งไหน คุณจะได้ความสุขเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะเราชอบตำแหน่งและความสูงของเบาะหลังที่เพิ่มสโค้ปกว้างจากมุมมองรอบคันที่ปราศจากจุดบอดรอบคัน

Nissan Frontier Navara แรงโดนใจขาปิกอัพ








เงื้อง่ามาเนิ่นนาน ปล่อยให้บรรดาขาประจำแฟนปิกอัพนิสสันตัวจริงและขาจรที่ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวรอคอยมาร่วม 2-3 ปี จนในที่สุดปิกอัพโมเดลใหม่ไซส์ใหญ่ Nissan Frontier Navara ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวทำตลาดเมื่อต้นปีหมูทองที่ผ่านมา งานนี้พอเปิดตัวปั๊บ กระแสตอบรับดีทันตา เพราะด้วยความใหม่สดซิงและเป็นปิกอัพที่เก็บเอาจุดเด่นต่างๆ ของค่ายคู่แข่งมาผสมผสานใส่ลงในคันนี้ จนทำให้บอสใหญ่ของนิสสันปลื้มถึงกับแสดงควมมั่นใจว่าจะเป็นรถธงที่จะมากูชื่อให้บริษัท สามารถทำยอดขายไต่อันดับปิกอัพที่ขายดีอันดับต้นๆ ในตลาดเมืองไทยเลยทีเดียว ล่าสุดกับการทดสอบสมรรถนะที่จังหวัดเชียงใหม่ทั้งในรูปแบบการขับขี่ออนโรดและออฟโรดในสนามจำลอง อีกทั้งมีโอกาสพูดคุยกับสองผู้บริหารดีลเลอร์ใหญ่ของเมืองเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็น ดร.นิตย์ วังวิวัฒน์ จันทรมังกร แห่งนิสสัน นอร์ทเวฟ บอกกับผมว่า แค่เปิดตัวแนะนำไม่ถึงอาทิตย์ทำยอดจอง ยอดขายทะลุเป้าดีเกินคาดได้กว่าแห่งละ 30 คัน ตกถึงวันนี้คงจะทะลุเป้าเกินแห่งละ 50 คันเป็นอย่างน้อยแน่
โฉมแกร่งอเมริกันสไตล์ภายในเนี๊ยบดีไซน์ลงตัว
จุดเด่นของปิกอัพนี้ ที่มีเหนือกว่าคู่แข่งแบบเห็นชัดๆ คือรูปลักษณ์ใหม่ขึ้น กระจังหน้าใหญ่ ไฟหน้าซีนอนพร้อมไฟตัดหมอกโป่งล้อใหญ่ฝาท้ายมือจับแบบ One Touch พร้อม กรอบสีดำวี ห้องโดยสารกว้าง เบาะนั่งสบาย ในรุ่น King Cab ประตูแค็บเปิดได้ คอนโซลหน้าแบบรถ SUV เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ พวงมาลัย 3 ก้าน คล้ายสปอร์ต 350z ปรับสูงต่ำได้กระจกมองหลังแบบตัดแสงอัตโนมัติพร้อมเข็มทิศ Digital ที่เปิดถังน้ำมันแบบไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝนหน่วงเวลาสัมพันธ์กับความเร็วรถที่ใช้ใน Tiida จากจุดเด่นของรูปลักษณ์ที่ดูแข็งแกร่งในสไตล์ปิกอัพอเมริกัน คือสูงใหญ่ บึกบึน และเอาใจใส่ต่อการออกแบบภายในห้องโดยสารที่ดูดีมีระดับผิดแปลกไปจาก Nissan Frontier ตัวเก่ารุ่นพี่ที่เพิ่งปิดไลน์ผลิตไป ก่อนหน้านี้ แบบราวฟ้ากับดิน ที่สื่อถึงความเป็นสปอร์ต และมุ่งหวังในการตกแต่งภายในให้เอื้อประโยชน์ต่อการใช้งานพร้อมทั้งความสะดวกสบายต่อการขับขี่และนั่งโดยสาร จนทำให้กลายเป็นปิกอัพที่มีความโดดเด่นเหนือกวาคู่แข่งด้วยกันแทบทุกค่าย

กล่าวโดยสรุปแล้ว รูปลักษณ์ใหม่เร้าใจ ใหญ่ขึ้นทุกมิติ กระจังหน้าขนาดใหญ่ ไฟหน้าซีนอน แบบปรับระดับได้พร้อมไฟตัดหมอก Short Overhang โป่งล้อ (Fender) ขนาดใหญ่ขึ้นรูปจากตัวรถ ฝาท้ายโดดเด่น มือจับแน่น One Touch พร้อมกรอบสีดำ รูป V-Shape ไฟท้ายโดดเด่น ห้องโดยสารกว้างขวางเบาะขนาดใหญ่นั่งสบาย รุ่น King Cab ประตูแค็บสามารถเปิดได้ คอนโซลหน้าสวยงามแบบรถ SUV ติดตั้งวิทยุ ซีดี 6 แผ่น เล่น MP3 ได้ พวงมาลัยแบบ 3 ก้าน ทรงเดียวกับรถสปอร์ต 350z ปรับสูงต่ำได้ กระจกมองหลังแบบตัวแสงอัตโนมัติ พร้อมเข็มทิศ Digital ที่เปิดถังน้ำมันแบบไฟฟ้า ที่ปัดน้ำฝนมีระบบแบบหน่วงเวลา ที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถ (ระบบเดียวกับ Tiida) ระบบแอร์ แบบเร่งความเย็นเร็วสูง ช่วยให้ห้องโดยสารเย็นเร็วขึ้น

ขุมพลังแรงจัดจ้าน
โดยเฉพาะขุมพลังในการขับเคลื่อนที่ติดตั้งเครื่องยนต์ YD25DDTi Commonrail 2500 ซี.ซี. 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงไดเรกต์อินเจคชั่นคอมมอนเรล ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีล่าสุดมีให้เลือก 2 รุ่น คือขับเคลื่อน 4 ล้อ เครื่องยนต์ YD-174 Commonrail ใช้งานสมบุกสมบัน กำลังสูงสุด 174 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 403 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที และเครื่อง YD-144 Commonrail ใช้ในชีวิตประจำวันและงานบรรทุก เน้นประหยัดน้ำมัน ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 356 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ทำงานผสานเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ยิ่งในรุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด เจ้าแรกในกระบะเมืองไทย ที่นำเอาเทคโนโลยีกระบะเมืองไทย ที่นำเอาเทคโนโลยีนี้มาใช้ รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด หากไม่โดนค่ายฝาแฝด ฟอร์ดกับมาสด้าชิงเปิดตัวตัดหน้าไปเสียก่อน คงเป็นจุดขายที่เอาไปคุยให้ขาประจำปิกอัพรับรู้กันได้

ดีเซล 6 สปีด รายแรกของโลก !






เกียร์ MT 6 สปีดเจ้าแรกในไทย เกียร์ AT 5 สปีดขับสนุกไม่แพ้กัน
จุดเด่นของเกียร์ธรรมดา 6 สปีดนี้ มีอัตราทดกว้างขึ้น ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ช่วงเกียร์ต่ำ (เกียร์ 1-4) เพื่อทดรอบเครื่องให้ได้แรงบิดและกำลังสูงขึ้น โดยไม่ต้องกดคันเร่งมาก ทำให้ประหยัดน้ำมัน อัตราทดเกียร์สูง (เกียร์ 5-6) ที่กว้าง เมื่อทดกับอัตราทดเฟืองท้ายต่ำ มีรอบเครื่องที่ต่ำช่วงความเร็วสูง ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่มีโอเวอร์ไดรฟ์ในตัว ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และนำเอาจุดเด่นของระบบเกียร์ในรถสปอร์ตรุ่น 350z มาใช้งานร่วม ส่งผลให้เปลี่ยนเกียร์ทุกความเร็วรอบได้อย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์มีกำลังที่ต่อเนื่องทุกเกียร์และประหยัดน้ำมัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time พร้อมลิมิเต็ดสลิปก็เช่นกัน ติดตั้งระบบ All Mode Switch 4x4 ในรุ่น 4x4 ใช้งานง่าย ระบบช่วงล่างไมต้องกังวลเพราะยี่ห้อ Nissan Frontier การันตีอยู่แล้ว แชสซีแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาระบบกันสะเทือนขึ้นมาใหม่ให้มีความนุ่มนวลขึ้น ไม่ว่าจะขยายความยาวแหนบฐานล้อที่กว้างขึ้น พร้อมติดตั้งระบบคอยล์สปริง ปัจจัยในระบบเกียร์ที่ส่งผลให้มีอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันสูงสุด คือ อัตราที่กว้างขึ้น และเกียร์ 6 จังหวะ ทำให้สามารถเลือกใช้เกียร์ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานในทุกสภาวะการขับขี่ ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ในทุกสภาวะการขับขี่ ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ในช่วงเกียร์ต่ำ (เกียร์ 1-4) เพื่อทดรอบเครื่องยนต์ให้ได้แรงบิดและกำลังที่สูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งมาก ในช่วงออกตัวและการขับขี่ในเมือง ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น อัตราทดเกียร์สูง (เกียร์ 5-6) ที่กว้าง เมื่อทดกับอัตราทดของเฟืองท้ายต่ำ มีรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำในช่วงความเร็วสูง ส่วนจุดเด่นของระบบขับเคลื่อนมีระบบ All Mode Switch 4x4 ในรุ่น 4x4 ใช้งานง่าย เพียงแค่หมุนสวิตช์ควบคุมก็สามารถปรับเข้าโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อได้ เป็นระบบ Part-Time สามารถเลือกโหมดการขับได้ ชุดเฟืองท้ายมีครีบระบายความร้อน ยืดอายุชิ้นส่วนและน้ำมันเฟืองท้าย จุดเด่นของระบบช่วงล่างนั้น แชสซีแบบชิ้นเดียว มีขนาดใหญ่ กันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวลสูง ขนาดของแหนบยาวขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักได้ดี และนุ่มนวลมากขึ้น ฐานล้อขยายกว้างที่สุกและยาวที่สุดยึกเกาะถนนดีเยี่ยม

สมรรถนะเฉียบ...ขุมพลังแรงเหนือใคร...ออนโรดขับสนุก...ออฟโรดค่อนข้างยวบ...
การทดสอบครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ภาค และดูจะเป็นการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้นของนิสสัน สำหรับการจัดทดสอบวันแรกเริ่มทดสอบการขับขี่ในสนามออฟโรด ซึ่งมีด่านโหดๆ ให้ได้ประลองฝีมือคนขับและสมรรถนะรถ เช่น ทางตะแคง ทางลาดชัน ลุยน้ำ หลุมบ่อ เนิน สลับ การขับข้ามร่องไม้ โดยมีรถรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 5 สปีด และด้วยแรงบิดอันมหาศาล การขับขี่ออฟโรดเรียกว่าราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไร แต่มีข้อติติงอยู่ว่าระบบช่วงล่างทั้งนิ่มทั้งยวบและโยนตัว

การขับทดสอบในวันที่สอง ดูจากโปรแกรมที่ทีมงานเซตมาให้ เรียกว่าให้ขับรถกันแบบเต็มๆ และแม้จะเป็นการขับทดสอบบนทางออนโรดก็ตาม แต่เส้นทางที่ใช้ในการทดสอบค่อนข้างโหด เหมือนกัน (อ.เมืองเชียงใหม่-อ.เชียงดาว-อ.พร้าว-อ.สันทราย-อ.เมืองเชียงใหม่) ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร ที่มีทั้งทางลาดชัน ทางโค้ง ทางแคบ บนดอยและทางตรงให้ลองกันเต็มที่ พร้อมกับเก็บรายละเอียดตัวรถและการใช้งานไปในตัว
การทดสอบขับในช่วงนี้ต้องบอกว่า Navara เป็นปิกอัพที่มีสมรรถนะแรงตอบสนองการขับขี่ได้ดี ในเกียร์ธรรมดา 6 สปีดแรกๆ เข้าเกียร์ง่าย เรียกแรงบิดได้ทันใจ แต่อาจทำให้หลงเกียร์บ้าง (เนื่องจากเพิ่งลองใช้เป็นครั้งแรก) แต่ขับๆ ไปก็เพลินดี ขณะที่แป้นคลัตช์ดูจะตั้งระยะสูงไปหน่อย ขนาดว่านักข่าวที่ทำหน้าที่เป็นนักทดสอบแทบทุกคนออกตัวเป็นดับ ยิ่งขับไต่ทางชันสูงๆ และต้องเชนจ์เกียร์ลงต่ำเพื่อเรียกรอบเรียกกำลังเครื่อง พาลดับกลางเนินสูงๆ เอาดื้อๆ แต่เชื่อว่า หากทำความคุ้นเคยสักพักน่าจะคล่องขึ้น หรือหากทางโรงงานปรับตั้งระยะคลัตช์เสียใหม่จะยิ่งโอ.เค.มากขึ้น

ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่ให้ความสะดวกสบายขึ้น แม้ต้องใส่คิกดาวน์เพื่อช่วยส่งแรงแต่ก็แค่นิดหน่อย ที่สำคัญสเตปเกียร์อัตโนมัติที่มี D-3-2-1 ช่วยให้ขับสนุกได้ดีไม่แพ้เกียร์ธรรมดา จุดที่น่าติคือ เสาอากาศวิทยุ สงสัยคงลืมย้ายหลังจากเปลี่ยนพวงมาลัยซ้ายมาเป็นขวา Nissan Frontier Navara รุ่นทั้งคิงแค็บแบบประตูบานตู้กับข้าวและดับเบิลแค็บ 4 ประตู ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ สนนราคาเริ่มต้นที่ 569,000 – 849,000 บาท ชอบรุ่นไหนสไตล์ใดตัดสินใจเอาล่ะกัน

TCM ออโต้ 5+1 A/T..."อัจฉริยะ"...แท้จริง



TCM ออโต้ 5+1 A/T..."อัจฉริยะ"...แท้จริง สำหรับความ "สมบูรณ์นิยม" ผู้ที่ต้องการ "อัตตา" สะดวกสบายในการขับขี่ แน่นอนครับ ด้วยระบบเกียร์ออโต้ 5 A/T พร้อมโอเวอร์ไดร์ฟ (เกียร์ทางไกลใช้ลดรอบเครื่องยนต์) ที่คงให้อัตราทดชิด (Close Ratio) ตามลักษณะนิสัย "ไหลเร็ว" ยังส่งผลเกียร์ A/T ของ NAVARA ใหม่ ที่ควบคุมด้วย "สมองเกียร์" TCM (Transmission Control Module) ที่ป้อนอัตราทดราบเรียบต่อเนื่อง ปราศจากอาการ Lock-Up เพราะอย่าลืมว่าเมื่อคุณตั้งใจจะเป็นนักกีฬาที่คล่องแคล่ว ทุกจังหวะการเข้าทำย่อมมีความหมาย ความนุ่มนวลต่อเนื่องปราศจากอาการ Power strokes กระตุกกระชากในการเปลี่ยนเกียร์ทุกความเร็วรอบ และแน่นอน อาการ "หย่อน" ของพลังเครื่องยนต์จะไม่ปรากฏ ทั้งยังให้กำลังต่อเนื่องในทุกเกียร์ ส่งผลให้การประหยัดน้ำมันเด่นชัดขึ้น โดยระบบเกียร์จะควบคุมละเอียดยิบ กล่องคอมพิวเตอร์ TCM (Transmission Control Module) ที่ฉลาดกว่า สามารถเรียนรู้, บันทึก,และปรับสภาพการเปลี่ยนเกียร์ตามกิริยาอาการท่ามกลางสภาวะแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนตลอดเวลาและตามอุปนิสัยอันหลากหลายของผู้ขับ ด้วยชุดเกียร์ที่พัฒนาด้วยระบบ TCM นี้ ทำให้เรือนเกียร์ของ NAVARA มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาทว่า แข็งแกร่งไร้ข้อผิดพลาด ซึ่งนิสสันพยายามเอาใจคอกระบะและรถหรูหราแบบ SUV โดยเฉพาะระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่มีสมรรถนะสูงแบบเดียวกับที่ใช้ใน มูราโน่, แพทโทรล, และรถสปอร์ตที่ผ่านการพิสูจน์มาแล้วของพวกเขา


4x4 แบบ Part Time พร้อมลิมิเต็ดสลิป ในสภาวะปีนป่าย ระบบ All Mode Switch 4x4 ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้าที่กำลังได้รับการยอมรับว่าเป็นสุดยอดทั้งในยุโรป, อเมริกา และแอฟริกา จนเชื่อมั่นได้ว่าเหนือชั้นในทุกสภาพการขับตะลุย ด้วยฟังก์ชันแสนสะดวกสบายต่อการใช้งาน คุณสามารถเลือกตำแหน่งการขับเคลื่อนให้เหมาะสมกับสภาพถนนได้แบบ Real time ด้วยปุ่มหมุนง่าย ๆ ให้คุณควบคุมหรือปรับเปลี่ยนจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อปกติ ไปสู่ 4L (Four Low ) เพื่อการปีนป่ายอย่างรวดเร็วง่ายดาย และเปลี่ยนจากขับเคลื่อน 2 ล้อที่ความเร็วสูง (2H) เพิ่มเป็นแบบ 4H (ขับ 4 ล้อบนไฮเวย์) เพื่อเพิ่ม Traction การยึดเกาะได้ทันที ในขณะรถวิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม. แต่หากคุณจะกลับมาลุย 4x4 เพื่อภารกิจปีนป่าย (4L) อีกครั้ง คุณต้องเริ่มที่การ "หยุดสนิท !" ของรถ พร้อมเลื่อนคันเกียร์ปกติไปเป็นเกียร์ว่าง จากนั้นชุดส่งกำลัง Four Low (4L) จะเริ่มทำงานสอดคล้องกับแรงบิดทรงพลังสุภาพตั้งแต่รอบต่ำ ทำให้สามารถทำกิจกรรม 4x4 ได้มั่นใจ มีประสิทธิภาพ ผ่านชุดเฟืองท้าย LSD ลิมิเต็ดสลิปที่โหดด้วยครีบระบายความร้อน เพื่อยืดอายุและลดความร้อนน้ำมันเฟืองท้าย ส่งผลให้เฟืองท้ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดจากการทำงานเครื่องยนต์ที่รอบจัดและแรงเครียดสูงทั้งบนทางไกลและกลางป่าโหด

เคล็ดลับที่ทำให้กระบะกลายเป็น SUV ?


เคล็ดลับที่ทำให้กระบะกลายเป็น SUV ?
แน่นอนว่า การกลับมาพร้อมคำประกาศว่าจะมาเป็นที่ 3 ทำให้พ่อครัวหัวป่าของนิสสันต้องปรุงแต่งรสชาติของ FRONTIER NAVARA ให้เข้มข้นจนเป็นรถกระบะบรรดาศักดิ์ดุจ SUV ระดับคหบดีที่ขับสบายในชีวิตประจำวัน พร้อมสภาพงานบรรทุกและบุกตะลุยกลางลำเนาไพร ที่มีบทบาทเด่นด้านความนุ่มนวลทุก "ระบอบขับขี่" จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่นิสสันใส่ใจและให้ความสำคัญสุด ๆ
เริ่มต้นด้วยโครงสร้างแชสซีใหม่เอี่ยม Zone Body Concept ทรงแอ่นกลางเพื่อกายภาพการดูดซับและผ่อนแรงกระแทก ออกแบบโดยคำนึงถึงการถ่วงสมดุลของน้ำหนักชิ้นส่วนต่าง ๆ ให้ต่ำ อันเป็นผลโดยตรงด้านการทรงตัวและยึดเกาะถนนเหนือชั้น ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นแบบอิสระ ปีกนกคู่สองชั้น (ย้ำ Double Wishbones แท้ ๆ) แบบรถสปอร์ตพันธุ์ 'R' พร้อมคอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง เน้นความนุ่มนวลทว่าแข็งแรงและทนทาน เพิ่มสัมผัสหน้ายางให้แนบติดถนนมากกว่า ขณะด้านหลังยัง "เหยียดแหนบ" ให้ยาวขึ้น พร้อมช็อคอัพไขว้แบบห้อยไว้ต่ำกว่าคานเพลาท้าย (ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ) ขณะที่รุ่น 4x4 วางตับแหนบไว้เหนือคานเพลาท้าย เพื่อส่งความสูงของตัวรถ พร้อมเพิ่มความสามารถในด้าน Off Road รวมทั้งการ "เหยียดแหนบ" เพื่อให้ช่วยดูดซับแรงกระแทกได้อย่างสุภาพ เพิ่มความนุ่มนวลยิ่งขึ้น
ปลอดภัยมากกว่า ? พร้อมกว่าด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัย NAVARA ใหม่ เสริมไว้เต็มอัตรา อาทิ ถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า เสริมด้วยแกนพวงมาลัยยุบตัวขณะชนปะทะมาตรฐานสูงแบบเดียวกับรถนั่งเกรดสูง โคมไฟหน้า Bi-Zenon ให้แสงสว่างชัดเจนกว่า พร้อม Levelizer ปรับระยะแสงและความสูง-ต่ำได้ถึง 4 ระดับ ไม่รบกวนผู้ที่ขับขี่สวนทางมา ให้ทัศนวิสัยที่ดีกว่าในทุกสภาวะการขับขี่ ระบบเบรก LSV (Load Sensing Valve) ที่คอยตรวจจับการกระจายน้ำหนักของแรงกดบนล้อหน้าและล้อหลัง และจะปรับแรงดันน้ำมันเบรกในล้อหน้าและล้อหลังให้สมดุลกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเบรกสูงสุด ที่แจ๋วกว่าคือดิสก์เบรกหน้าแบบคาลิเปอร์ลูกสูบคู่ จานเบรกใหญ่ พร้อมช่องระบายความร้อนผ่อนแรงเหยียบด้วยหม้อลมเบรก 2 ชั้น พร้อมระบบป้องกันล้อล็อก ABS ช่วยให้หยุดรถอย่างมั่นใจ ควบคุมแรงดันน้ำมันเบรกทั้ง 4 ล้อด้วยคอมพิวเตอร์ พร้อมระบบควบคุมและกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD คอยบาลานซ์แรงดันน้ำมันเบรกล้อหน้าและหลังให้เท่ากัน เพื่อส่งประสิทธิภาพการหยุดในระดับปลอดภัยบนระยะเบรกสั้นลง

Test Team กลางพายุ !

Test Team กลางพายุ !
ท่ามกลางพายุฤดูร้อนความเร็วระดับ 50-55 กม./ชม. ขณะที่ NAVARA ขับ 2 และ 4x4 วิ่งตะลุยสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล ด้วยความเร็วเดินทาง 100-140 และเพิ่มเป็น 185 กม./ชม. เมื่อสบโอกาสเพื่อ (แอบ) พิสูจน์ฝีเท้ากับ VIGO 4x4 ผลคือ เครื่องยนต์ 174 และ 144 แรงม้า/4,000 รอบต่อนาที ของทั้งสอง สามารถใช้แรงม้าระดับ 90% ที่ 3,550-3,600 รอบต่อนาที เพื่อพุ่งทะลุ 180 กม./ชม. ได้อย่างสบาย ขณะที่ NAVARA ยังมีเหลืออีก 400 รอบต่อนาที ที่อมเอาไว้เพื่อส่งให้มันปิดท้ายที่ความเร็ว 190 กม./ชม. บนมิติฐานล้อและระบบช่วงล่างที่พัฒนาขึ้นใหม่ (ให้สังเกตดูว่า นาวารา จะเหยียดกางทั้ง 4 ล้อไว้ตามมุมตัวรถ ทำให้มันเป็นกระบะที่ช่วงล้อยาว...ฐานล้อกว้าง ขณะที่ระยะยื่นตัวบอดี้น้อยที่สุดขณะนี้)




คุณจะสามารถเดินทางตามกฎหมายด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. ด้วยรอบเครื่องยนต์เพียง 1,950-2,000 รอบต่อนาที (ผ่านเกียร์ละเอียด 1-4), 2,350-2,400 รอบต่อนาที ที่สปีด 120 กม./ชม. แม้จะเร่งถึง 140 กม./ชม. คุณก็เพียงใช้รอบไป 2,750-2,800 รอบต่อนาที ขณะที่คุณพอจะหนีตำรวจทางหลวงพร้อมใบสั่งโทษหนักแถว 160 ด้วยรอบ 3,150-3,200 และ 180-185 กม./ชม. ที่ 3,550-3,600 รอบต่อนาที ก่อนจะแซงกระบะ 3,000 เทอร์โบ เพื่อเป็นกำบังจากการไล่ล่าที่ 185 กม./ชม. ก็เป็นอันว่าหมด 3,600 รอบต่อนาที พอดีกับที่ "กล่องล็อก" เอาไว้พอดี...จบกัลล์ ! (ไม่ช้าก็จะมี Buddy ชุดปลดล็อกกล่องออกมาขายแน่นอน) อัตราเร่งด้วยเฟืองท้ายหย่อนไปนิด ๆ NAVARA พิชิตแดร็กเรซซิ่งบนแก้มยาง 255/70 R16 และกระทะ 16x 7J (เป็นรายแรกครับทั่น) เต็มสภาพรถกระบะทะลุ 402 เมตร เกิน 18 ไปถึง 19.29 วินาที ที่สปีด 117.8 กม./ชม.จากนั้นไม่นานมันก็คืนให้ในการเก็บระยะเร่ง 0-1,000 เมตร (1 กม.) ที่ 35.45 วินาที ที่สปีด 144.8 กม./ชม. (นี่ซี่ตัวจริงกระทิงแดง...อะ ๆ ๆ) อัตราเร่ง 0-60 กม./ชม. ใน 5.60 วิ. ด้วยระยะเร่งเพียง 50 เมตร, 0-100 กม./ชม. ใน 13.15 วินาที ที่ระยะเร่ง 115 เมตร, และ 0-120 กม./ชม. ใน 19.68 วินาที ที่ 422 เมตร นี่คือผลจากคอมพิวเตอร์เทอร์โบ VNT ที่แปรผันทันใจ

ประทับใจสุด ?


ประทับใจสุด ?

ใช่แล้วครับ NAVARA ขับ 2 และ 4x4 คู่ขวัญ Double Cab ทั้งคู่ ขณะถูกทดสอบบนเส้นทางเขื่อนขุนด่านปราการชล ตลอดจนฝ่าพายุฤดูร้อนความเร็วลมครึ่งร้อย !! ย่อมเป็นความประทับใจในสภาวะ "หลังเย็น" ของ GPI Test Team (โดยเฉพาะรุ่น "ขับ 2" ที่ยังปลอดภัยในความเร็วเกิน 100 ขณะต้องสะดุดยอดไม้ขนาดใหญ่ที่พุ่งขวางหน้า พวกเราประทับใจระยะยื่นสั้นที่ด้านหน้า (Short - Overhang) ที่สามารถม้วนยอดไม้ใหญ่ที่พุ่งเข้าปะทะเต็มเปา ก่อนที่วงล้อและยางขนาด 16 นิ้ว สามารถทับและวิ่งผ่านไปโดยปราศจากอันตราย คล้ายฟุตบอลที่ถูกคลึงด้วยสตั๊ดกลิ้งผ่านพื้นหญ้า พวกเราประทับใจกับความประหยัดเฉลี่ยเกิน 10 กม/ลิตร, ประทับใจระบบเกียร์ 6 สปีด และ A/T 5+1, ประทับใจช่วงล่างรถแข่งแบบ "ปีกนกคู่" , ประทับใจสัมผัสพวงมาลัยและระบบตอบสนองฉับไวต่างไปจากกระบะรายอื่น ๆ ทั้งยังประทับใจความปลอดภัยสารพัดสะดวกสบาย ฯลฯ และยังประทับใจฟิลลิ่งการหยุด บนยางและล้อแม็ก 16นิ้ว แม้จะไม่มีโอกาสบันทึกระยะหยุดอย่างเป็นทางการ เนื่องจากทางเปียกเอามาก ๆ...นั่นเพราะว่า NISSAN FRONTIER NAVARA มิได้ทุ่มทุนพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ฝ่าฝืนกฎแห่งความปลอดภัย...และมันมีเป้าหมายสู่ปลายยอด TOP 3 ด้วยสารพัดสิ่งก้าวหน้าที่เปลี่ยนรถกระบะดีเซลให้กลายเป็น SUV สุดหรู...

สีรถที่ถูกโฉลกตามวันเกิด


วิธีแก้เคล็ด วิธีแก้เคล็ดสำหรับผู้ที่ใช้สีรถที่เป็นกาลกิณีวันเกิด เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ ใช้รถสีฟ้า หรือสีน้ำเงิน เป็นต้น ให้หาสติกเกอร์ "สีที่เป็นศรี" ของวันเกิดของเจ้าของรถ เช่น คนเกิดวันอาทิตย์ มีสีเขียว เป็นศรี เป็นต้น เมื่อได้สีนั้นมาแล้ว ให้ตัดสติกเกอร์ให้ได้ขนาด 2x2 นิ้ว จำนวน 4 แผ่น แล้วเอาไปติดตำแหน่งของรถต่อไปนี้ แผ่นที่ 1. กระโปรงหน้ารถ (ตรงกลาง) 1 แผ่น แผ่นที่ 2. ติดที่กระโปรงหลัง (หรือฝาท้าย) แผ่นที่ 3. ติดที่ประตูหน้าซ้าย แผ่นที่ 4. ติดที่ประตูหน้าขวา สีที่เป็นศรีสำหรับคนเกิดวันต่างๆ 1. เกิดวันอาทิตย์ สีเขียว เป็น ศรี 2. เกิดวันจันทร์ สีดำ เป็น ศรี 3. เกิดวันอังคาร สีเหลือง เป็น ศรี 4. เกิดวันพุธ กลางวัน สีเขียวอ่อน เป็น ศรี 5. เกิดวันพฤหัสบดี สีส้ม เป็น ศรี 6. เกิดวันศุกร์ สีชมพู เป็น ศรี 7. เกิดวันเสาร์ สีน้ำเงิน เป็น ศรี 8. เกิดวันพุธ กลางคืน สีขาว เป็น ศรีดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยที่นี่



คนเกิดวันอาทิตย์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้ ศ ษ ส ห ฬ ฮ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 6 และเลข 3- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันศุกร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอาทิตย์รถสีแดงก่ำหรือสีแดงเลือดหมู เสริมสง่าราศี มากด้วยบุญญาบารมี มีอำนาจวาสนา คนนบนอบยำเกรงรถสีดำเสริมความน่าเคารพนับถือ เสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง การเงินรถสีขาว สีครีมเสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง รถสีม่วงเปลือกมังคุดเสริมดวงด้านศรัทธา ความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจ และดวงเรื่องการเงินรถสีเขียวเสริมดวงให้คนรักเมตตา อุปถัมภ์ค้ำชู ช่วยเหลือทำให้สะดวกราบรื่นในเรื่องต่างๆรถสีบรอนซ์ สีเทา สีทองเสริมดวงเรื่องเมตตามหานิยม เสริมเสน่ห์ การสนับสนุนเกื้อกูลรถสีฟ้า สีน้ำเงินไม่ควรออกรถสีนี้ เพราะเป็นกาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

คนเกิดวันจันทร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันจันทร์ ห้ามใช้ สระทั้งหมด (เว้นไม้หันอากาศและตัวการันต์) เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 1 และเลข 5- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันจันทร์รถสีส้ม สีเหลืองแก่เสริมดวงเรื่องการเงิน ความมั่นคง ทุนทรัพย์ ราคาและคุณค่าที่จะเพิ่มพูนให้แก่ตนเองในปัจจุบันและภายภาคหน้ารถสีดำเสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง รถสีน้ำเงิน สีทองเสริมเสน่ห์ ผู้ใหญ่รักเมตตาและเอ็นดู มีแต่สิ่งที่เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรารถสีม่วงเปลือกมังคุดเสริมดวงด้านความสะดวกราบรื่นทุกอย่างรถสีชมพูเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีฟ้าเสริมดวงให้ประสพความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีเขียวอำนาจวาสนา บารมี เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับบัญชาคนรถสีแดงสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันอังคาร

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันอังคาร ห้ามใช้ ก ข ค ฆ ง เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 2 และเลข 1 และห้ามเลข เพราะทะเบียนที่มีเลข จะมีเรื่องและเกิดอุบัติบ่อยๆ ทำให้เสียเงินทองหรือทำให้เจ้าของได้รับบาดเจ็บ- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันจันทร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอาทิตย์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันอังคารรถสีม่วงแก่เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีดำเสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับรถสีบรอนซ์ สีเทาเสริมความน่าเชื่อถือ ความไว้วางใจรถสีทอง สีแสดเสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีน้ำตาลเสริมดวงด้านความมั่นคงในชีวิต เช่นมั่นคงเรื่อง หลักทรัพย์ ทรัพย์สิน หน้าที่การงานรถสีเขียวเสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่งรถสีแดง สีชมพูเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีขาว สีเหลืองนวลเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันพุธ (กลางวัน 06.01-18.00)

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางวัน) ห้ามใช้ จ ฉ ช ซ ฌ ญ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 3 และเลข 8- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันอังคาร เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางคืน) เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพุธ (กลางวัน)รถสีน้ำเงิน สีฟ้าเสริมดวงด้านความเคารพนับถือ ยกย่องยอมรับรถสีน้ำตาล สีทองเสริมดวงด้านพลังอำนาจ เกียรติยศ และชื่อเสียงตำแหน่งหน้าที่การงาน อานุภาพอิทธิพลที่ทำให้คนเคารพยำเกรง มีความสามารถในการควบคุมบังคับรถสีขาว สีเหลืองอ่อนเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีเทา สีบรอนซ์เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีดำเสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่นรถสีม่วงแก่เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีเขียวเสริมดวงด้านเสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรารถสีชมพู สีแสดเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันพุธ (กลางคืน 18.01-06.00)

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพุธ (กลางคืน) ห้ามใช้ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 5 และเลข 4- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพฤหัสบดี เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางวัน) เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพุธ (กลางคืน)รถสีชมพูเสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจรถสีดำเสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานรถสีเทา สีบรอนซ์เสริมความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีม่วงแก่เสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีน้ำเงิน สีฟ้าเสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่นรถสีแดง สีน้ำตาลเสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีส้ม สีทองเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันพฤหัสบดี

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ห้ามใช้ ด ต ถ ท ธ น เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 7- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันเสาร์ เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันพฤหัสบดีรถสีขาวเสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจรถสีแดงเสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีเทา สีบรอนซ์เสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่นรถสีฟ้าเสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีเขียวเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีส้ม สีทองเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรารถสีดำ สีม่วง สีน้ำเงินเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันศุกร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันศุกร์ ห้ามใช้ ย ร ล ว เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 8 และเลข 7- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางคืน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันเสาร์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันศุกร์รถสีเขียวเสริมดวงให้คนเชื่อถือและไว้วางใจรถสีสีแดง สีทองเสริมดวงด้านความก้าวหน้าเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานรถสีแดง สีชมพูเสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีเหลืองเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีดำเสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่นรถสีน้ำตาลเสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีฟ้า สีน้ำเงินเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรารถสีเทา สีบรอนซ์ สีม่วงเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต
คนเกิดวันเสาร์

- ตามหลักทักษาคนที่เกิดวันเสาร์ ห้ามใช้ ฎ ฏ ฐ ฑ ฒ ณ เพราะเป็นอักษรกาลกิณี- เลขทะเบียนรถห้าม ไม่ให้มีเลข 4 และเลข 6- ไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันพุธ (กลางวัน) เพราะเป็นกาลกิณีในวันเกิดและไม่ควรทำการมงคลต่างๆ ในวันศุกร์ เพราะเป็นวันคู่ศัตรูวันเกิด- ถ้าจะออกรถ สีรถที่ควรเลือกใช้หรือสีรถที่ถูกโฉลก ของคนเกิดวันเสาร์รถสีแดงเสริมดวงให้คนยอมรับเชื่อถือและไว้วางใจรถสีชมพูเสริมดวงให้ประสพผลสำเร็จได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชู ได้รับการสงเคราะห์เกื้อหนุนจากผู้ใหญ่ ได้รับการส่งเสริม ในการดำเนินชีวิตและหน้าที่การงานรถสีน้ำเงิน สีฟ้าเสริมดวงด้านความสงบปลอดภัยจากเหตุร้าย เช่น อุบัติเหตุ แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวงรถสีทา สีบรอนซ์เสริมโชควาสนา เสริมวาสนาบารมี โชคลาภ ความโชคดีรถสีทอง สีเหลืองเสริมดวงด้านการแก้ปัญหา ไร้อุปสรรค ไร้ศัตรูและคู่แข่ง ชีวิตมีแต่ความสะดวก ราบรื่นรถสีดำ สีม่วงแก่เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต หลักทรัพย์ โชคลาภ เสน่ห์ที่ทำให้คนรักใคร่เมตตา และศรัทธาในตัวเรารถสีเขียว สีแสดเป็นสีต้องห้าม เพราะเป็น กาลกิณี หมายถึง โชคร้าย อัปมงคล ความเป็นเสนียด ศัตรูคู่แข่ง อุปสรรคในการดำเนินชีวิต

Friday, May 1, 2009

ฤกษ์ดี ออกรถ ปี 2552



ดูดวงฤกษ์การออกรถ โดย ผู้ดูดวงวัฒนา Goosiam.com
ดูดวงข้อมูลลิขสิทธิ์ ถ้าผู้ใด หรือศูนย์รถใด นำไปใช้ ให้อ้างอิงถึงดังนี้
ดูดวงข้อมูลลิขสิทธิ์ โดยผู้ดูดวงวัฒนา จากเว็บไซต์
www.goosiam.com

ดูดวงเวลาอออกรถ ออกได้ตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 13.00 น. เป็นช่วงเวลาออกรถที่ดีที่สุด หรือช่วงเย็นไม่เกิน 18.00 น.ของวันนั้น

ดูดวงฤกษ์ที่ให้นี้ เลือกเฉพาะฤกษ์วันออกรถที่ดีที่สุด ความหมายดีทุกประการ

วันที่ 16 เดือนมกราคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 6 เดือนกุมภาพันธ์ ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 6 เดือนมีนาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 10 เดือนเมษายน ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 24 เดือนเมษายน ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 1 เดือนพฤษภาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 22 เดือนพฤษภาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 29 เดือนพฤษภาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 26 เดือนมิถุนายน ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 3 เดือนกรกฎาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 14 เดือนสิงหาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 18 เดือนกันยายน ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 16 เดือนตุลาคม ตรงกับวันศุกร์

วันที่ 11 เดือนธันวาคม ตรงกับวันศุกร์


ดูดวงข้อมูลนี้ประกาศลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
ดูดวงเจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ดูดวงวัฒนา แห่งเว็บไซต์ Goosiam.com

ดูดวงข้ออนุญาต การนำไปเผยแพร่ยังสื่ออื่น
บริษัทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน หรือเว็บไซต์ รถยนต์ทุกแห่ง หากนำข้อมูลนี้ไปใช้ ให้อ้างอิงถึงแหล่งที่มา ดังด้านล่างนี้

ข้ดูดวงอมูลอ้างอิง เจ้าของลิขสิทธิ์ ผู้ดูดวงวัฒนา เว็บไซต์
www.goosiam.com

หากพบว่าผู้ใดนำไปใช้ โดยไม่อ้างอิงถึงเจ้าของลิขสิทธิ์ จะดำเนินการตามกฎหมายโดยทันที

ดูดวงประสบการณ์การทดสอบด้วยตนเอง ของผู้ดูดวงวัฒนา

ดูดวงรถกระบะ
1. ป้ายแดง รถกระบะ เลขรถถูกหวยทันทีที่ออกรถได้ป้ายแดง 2 ครั้งติดกัน จำเลขทะเบียนไม่ได้
2. ป้ายเขียว รถกระบะ เลขรถถูกหวยทันทีที่ออกรถได้ป้ายเขียว 2 ครั้งติดกัน
จำเลขทะเบียนไม่ได้3. ย้ายทะเบียนย้ายจังหวัดจดทะเบียน เลขรถถูกหวยทันที่ที่ได้ป้ายทะเบียนใหม่ มากกว่า 5 ครั้ง ตั้งแต่ออกรถมา ปัจจุบันได้เลข 225 เลขท้ายรถกระบะ
4. ประสบการณ์จักรยานยนต์ ชนท้ายขณะติดไฟแดง กำลังเตรียมตัวเดินทางไปจังหวัดกำแพงเพชร มีเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้าย กันชนท้ายยุบส่วนกลาง ทำให้ไม่ได้เดินทางไปกำแพงเพชร เป็นส่วนที่คิดว่าหากเดินทางไปจะมีเรื่องที่ร้ายแรงยิ่งกว่า เลยยกเลิกโครงการเดินทางไปกำแพงเพชรโดยทันที
5. ไม่เคยชนกับรถคันใด การขับรถเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยครั้ง ราบรื่น โดยสะดวก
6. ปัจจุบันใช้งานสะดวกราบรื่นไม่ติดขัดอันใด มีแต่สร้างความฮือฮาให้คนเล่นหวยเป็นระยะ เวลาที่เลขรถออก เจ้าของรถไม่ใช่คนเล่นหวย

ดูดวงรถเก๋ง
1. ออกใหม่ป้ายแดง เลขรถออกหวยโดยทันทีที่ได้ป้ายแดง
2. ก่อนได้ป้ายดำ รู้เลขรถแต่ยังไม่ได้ป้าย 2005 ออกหลายงวดแล้วหลายครั้ง แม้แต่ล่าสุดก็ตาม
3. การขับรถยังไม่เคยชน มีความราบรื่นในการเดินทาง

สรุป ที่บอกประสบการณ์ออกรถสองคันนี้ ไม่ได้หวังให้คนเล่นหวย เพราะผู้ทำนายไม่ได้เล่นหวย แต่เนื่องจาก ความผิดปกติ ผิดแปลก ที่มันไม่ได้เกิดขึ้นกับรถทุกคันนั้นทำให้มองเห็นสิ่งแปลกๆที่ได้ทดสอบกับรถป้ายแดงของตนเอง 2 คันล่าสุดที่ซื้อมา จึงเอามาเล่าให้อ่านกัน

จึงแนะนำว่า ไม่ต้องเสียเงินมากมายไปให้คนดูวันออกรถ ผมดูวันออกรถให้ที่นี่ ดีที่สุดแล้ว ยังจะไปเสียเงินเสียเวลาเดินทางไปหาวันออกรถอีกหรือ หรือของฟรีไม่เสียเงินมันไม่ขลังเท่ากับของเสียเงิน ผู้ที่เคยนำฤกษ์การออกรถของผมไปใช้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาคงทราบดีว่า รถที่ไปเปิดตามฤกษ์ที่ผมบอกเป็นอย่างไร

ดูดวงข้อมูลลิขสิทธิ์ โดยผู้ดูดวงวัฒนา จากเว็บไซต์
www.goosiam.com

Hello