Saturday, May 2, 2009

ดีเซล 6 สปีด รายแรกของโลก !






เกียร์ MT 6 สปีดเจ้าแรกในไทย เกียร์ AT 5 สปีดขับสนุกไม่แพ้กัน
จุดเด่นของเกียร์ธรรมดา 6 สปีดนี้ มีอัตราทดกว้างขึ้น ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ช่วงเกียร์ต่ำ (เกียร์ 1-4) เพื่อทดรอบเครื่องให้ได้แรงบิดและกำลังสูงขึ้น โดยไม่ต้องกดคันเร่งมาก ทำให้ประหยัดน้ำมัน อัตราทดเกียร์สูง (เกียร์ 5-6) ที่กว้าง เมื่อทดกับอัตราทดเฟืองท้ายต่ำ มีรอบเครื่องที่ต่ำช่วงความเร็วสูง ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่มีโอเวอร์ไดรฟ์ในตัว ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ และนำเอาจุดเด่นของระบบเกียร์ในรถสปอร์ตรุ่น 350z มาใช้งานร่วม ส่งผลให้เปลี่ยนเกียร์ทุกความเร็วรอบได้อย่างนุ่มนวล เครื่องยนต์มีกำลังที่ต่อเนื่องทุกเกียร์และประหยัดน้ำมัน ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part-Time พร้อมลิมิเต็ดสลิปก็เช่นกัน ติดตั้งระบบ All Mode Switch 4x4 ในรุ่น 4x4 ใช้งานง่าย ระบบช่วงล่างไมต้องกังวลเพราะยี่ห้อ Nissan Frontier การันตีอยู่แล้ว แชสซีแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันยังได้พัฒนาระบบกันสะเทือนขึ้นมาใหม่ให้มีความนุ่มนวลขึ้น ไม่ว่าจะขยายความยาวแหนบฐานล้อที่กว้างขึ้น พร้อมติดตั้งระบบคอยล์สปริง ปัจจัยในระบบเกียร์ที่ส่งผลให้มีอัตราเร่งและประหยัดน้ำมันสูงสุด คือ อัตราที่กว้างขึ้น และเกียร์ 6 จังหวะ ทำให้สามารถเลือกใช้เกียร์ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานในทุกสภาวะการขับขี่ ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ในทุกสภาวะการขับขี่ ปรับเพิ่มอัตราทดเกียร์ในช่วงเกียร์ต่ำ (เกียร์ 1-4) เพื่อทดรอบเครื่องยนต์ให้ได้แรงบิดและกำลังที่สูงขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งมาก ในช่วงออกตัวและการขับขี่ในเมือง ทำให้ประหยัดน้ำมันขึ้น อัตราทดเกียร์สูง (เกียร์ 5-6) ที่กว้าง เมื่อทดกับอัตราทดของเฟืองท้ายต่ำ มีรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำในช่วงความเร็วสูง ส่วนจุดเด่นของระบบขับเคลื่อนมีระบบ All Mode Switch 4x4 ในรุ่น 4x4 ใช้งานง่าย เพียงแค่หมุนสวิตช์ควบคุมก็สามารถปรับเข้าโหมดขับเคลื่อน 4 ล้อได้ เป็นระบบ Part-Time สามารถเลือกโหมดการขับได้ ชุดเฟืองท้ายมีครีบระบายความร้อน ยืดอายุชิ้นส่วนและน้ำมันเฟืองท้าย จุดเด่นของระบบช่วงล่างนั้น แชสซีแบบชิ้นเดียว มีขนาดใหญ่ กันสะเทือนหน้าแบบอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ให้ความนุ่มนวลสูง ขนาดของแหนบยาวขึ้นเพื่อรองรับน้ำหนักได้ดี และนุ่มนวลมากขึ้น ฐานล้อขยายกว้างที่สุกและยาวที่สุดยึกเกาะถนนดีเยี่ยม

สมรรถนะเฉียบ...ขุมพลังแรงเหนือใคร...ออนโรดขับสนุก...ออฟโรดค่อนข้างยวบ...
การทดสอบครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ภาค และดูจะเป็นการทำงานที่เป็นระบบมากขึ้นของนิสสัน สำหรับการจัดทดสอบวันแรกเริ่มทดสอบการขับขี่ในสนามออฟโรด ซึ่งมีด่านโหดๆ ให้ได้ประลองฝีมือคนขับและสมรรถนะรถ เช่น ทางตะแคง ทางลาดชัน ลุยน้ำ หลุมบ่อ เนิน สลับ การขับข้ามร่องไม้ โดยมีรถรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ ทั้งเกียร์ธรรมดา 6 สปีด และอัตโนมัติ 5 สปีด และด้วยแรงบิดอันมหาศาล การขับขี่ออฟโรดเรียกว่าราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไร แต่มีข้อติติงอยู่ว่าระบบช่วงล่างทั้งนิ่มทั้งยวบและโยนตัว

การขับทดสอบในวันที่สอง ดูจากโปรแกรมที่ทีมงานเซตมาให้ เรียกว่าให้ขับรถกันแบบเต็มๆ และแม้จะเป็นการขับทดสอบบนทางออนโรดก็ตาม แต่เส้นทางที่ใช้ในการทดสอบค่อนข้างโหด เหมือนกัน (อ.เมืองเชียงใหม่-อ.เชียงดาว-อ.พร้าว-อ.สันทราย-อ.เมืองเชียงใหม่) ระยะทาง 200 กว่ากิโลเมตร ที่มีทั้งทางลาดชัน ทางโค้ง ทางแคบ บนดอยและทางตรงให้ลองกันเต็มที่ พร้อมกับเก็บรายละเอียดตัวรถและการใช้งานไปในตัว
การทดสอบขับในช่วงนี้ต้องบอกว่า Navara เป็นปิกอัพที่มีสมรรถนะแรงตอบสนองการขับขี่ได้ดี ในเกียร์ธรรมดา 6 สปีดแรกๆ เข้าเกียร์ง่าย เรียกแรงบิดได้ทันใจ แต่อาจทำให้หลงเกียร์บ้าง (เนื่องจากเพิ่งลองใช้เป็นครั้งแรก) แต่ขับๆ ไปก็เพลินดี ขณะที่แป้นคลัตช์ดูจะตั้งระยะสูงไปหน่อย ขนาดว่านักข่าวที่ทำหน้าที่เป็นนักทดสอบแทบทุกคนออกตัวเป็นดับ ยิ่งขับไต่ทางชันสูงๆ และต้องเชนจ์เกียร์ลงต่ำเพื่อเรียกรอบเรียกกำลังเครื่อง พาลดับกลางเนินสูงๆ เอาดื้อๆ แต่เชื่อว่า หากทำความคุ้นเคยสักพักน่าจะคล่องขึ้น หรือหากทางโรงงานปรับตั้งระยะคลัตช์เสียใหม่จะยิ่งโอ.เค.มากขึ้น

ส่วนในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่ให้ความสะดวกสบายขึ้น แม้ต้องใส่คิกดาวน์เพื่อช่วยส่งแรงแต่ก็แค่นิดหน่อย ที่สำคัญสเตปเกียร์อัตโนมัติที่มี D-3-2-1 ช่วยให้ขับสนุกได้ดีไม่แพ้เกียร์ธรรมดา จุดที่น่าติคือ เสาอากาศวิทยุ สงสัยคงลืมย้ายหลังจากเปลี่ยนพวงมาลัยซ้ายมาเป็นขวา Nissan Frontier Navara รุ่นทั้งคิงแค็บแบบประตูบานตู้กับข้าวและดับเบิลแค็บ 4 ประตู ซึ่งมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ สนนราคาเริ่มต้นที่ 569,000 – 849,000 บาท ชอบรุ่นไหนสไตล์ใดตัดสินใจเอาล่ะกัน

No comments:

Post a Comment